Loader image

คำตอบ: โดยเฉลี่ยใช้เวลาประมาณ 23 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการออกแบบและเทคนิคที่ใช้

คำตอบ: โดยทั่วไปสีจะคงอยู่ประมาณ 1-3 ปี แต่อาจแตกต่างกันไปตามสภาพผิว การดูแลรักษา และปัจจัยอื่นๆ

คำตอบ: ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการใช้ยาบางชนิดก่อนการสัก 24-48 ชั่วโมง และควรปรึกษาแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือแพ้ง่าย

คำตอบ: ควรหลีกเลี่ยงการโดนน้ำโดยตรงในช่วงแรก ทาครีมตามคำแนะนำของผู้ให้บริการ และหลีกเลี่ยงการขัดถูบริเวณที่สัก

คำตอบ: ราคาขึ้นอยู่กับเทคนิค ประสบการณ์ของผู้ให้บริการ และสถานที่ ร้าน OnKo Studio อยู่ที่ 5,900  บาท 

คำตอบ: ร้านที่ได้มาตรฐานจะใช้สีที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยสำหรับการสักบนใบหน้าโดยเฉพาะ สีเหล่านี้มักเป็นสีอินทรีย์ที่ไม่มีส่วนผสมของโลหะหนัก และมีใบแจ้งแหล่งที่มาและการรับรองมาตรฐานของสีที่ใช้

คำตอบ: ร้านมีใบอนุญาติอย่างถูกต้องตามกฏหมาย

  • ใช้อุปกรณ์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อหรือใช้ครั้งเดียวทิ้ง
  • ผู้ให้บริการสวมถุงมือและหน้ากากอนามัย
  • ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบริเวณที่จะสักก่อนเริ่มกระบวนการ
  • ใช้สีที่ได้รับการรับรองความปลอดภัย
  • มีการอธิบายขั้นตอนและข้อควรระวังให้ลูกค้าทราบก่อนเริ่มสัก

คำตอบ: สามารถสักทับได้ และสักทับไม่ได้ แต่ ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินและให้คำแนะนำที่เหมาะสมสำหรับแต่ละกรณี และ เทคนิค หรือสี ที่ลูกค้าต้องการ

คำตอบ: โดยทั่วไป ควรรอประมาณ 4-6 สัปดาห์หลังการสักครั้งแรก เพื่อให้ผิวหนังหายสนิทและสีคงที่ 

คำตอบ: โดยทั่วไป แนะนำให้ทำสักคิ้ว ก่อนโบท็อก เหตุผลมีดังนี้:

โบท็อกซ์อาจเปลี่ยนตำแหน่งของคิ้วเล็กน้อย ดังนั้นการทำโบท็อกซ์ก่อน การออกแบบ อาจจะไม่ได้กำหนดตามความเป็นจริงของกล้ามเนื้อลูกค้า 

หากสักคิ้วก่อนฉีดโบท็อกซ์ สามารถโบทอก หลังสักคิ้ว 3-4 วัน

ฉีดโบท็อกซ์ก่อนสักคิ้ว ควรรอประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อให้กล้ามเนื้อปรับตัวและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

คำตอบ: โดยทั่วไป ไม่แนะนำให้สตรีมีครรภ์ทำการสักคิ้วหรือสักปาก ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพราะ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน: ระหว่างตั้งครรภ์ ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนมาก ซึ่งอาจส่งผลต่อการติดของสีหากมีข้อสงสัยใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลการตั้งครรภ์ก่อนตัดสินใจ

คำตอบ: ระยะเวลาที่การสักคิ้วอยู่ได้นั้นแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ระยะเวลาโดยเฉลี่ย อยู่ได้ประมาณ 1-3 ปี

ปัจจัยที่มีผลต่อความคงทนของการสักคิ้ว:ชนิดของสีที่ใช้: สีออแกนิคจากธรรมชาติ มักจะจางเร็วกว่าสีสักตัว

เทคนิคการสัก: การสักที่ลึกกว่าอาจอยู่ได้นานกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่าสภาพผิวของแต่ละบุคคล: ผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสมมีผลต่อการคงอยู่ของสี

การดูแลรักษา: การปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลหลังสักช่วยยืดอายุการสักการสัมผัสแสงแดด: การโดนแสงแดดและความร้อน มากอาจทำให้สีจางเร็วขึ้น

อายุ: ผิวของผู้สูงอายุมักจะเก็บสีได้ไม่นานเท่าผิวของคนอายุน้อยฮอร์โมน: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจส่งผลต่อการคงอยู่ของสี

การเปลี่ยนแปลงตามเวลา:ปีแรก: สีมักจะคมชัดที่สุดปีที่ 1-2: อาจเริ่มสังเกตเห็นการจางลงของสีหลังปีที่ 3: สีอาจจางลงมากและอาจต้องทำการ touch-up

การรักษาสภาพ:แนะนำให้ทำ touch-up ทุก 12-18 เดือนเพื่อรักษาสภาพให้ดูสดใหม่ การ touch-up จะใช้เวลาน้อยกว่าและมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการสักใหม่ทั้งหมด

โดยสรุป การสักคิ้วมักอยู่ได้ประมาณ 1-3 ปี แต่อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล การดูแลที่ดีและการทำ touch-up ตามกำหนดจะช่วยรักษาสภาพของการสักคิ้วให้ดูดีได้ยาวนานขึ้น